คาร์บอนไดออกไซต์และแก๊สเรือนกระจก
มนุษย์จะอยู่ไม่ได้หากปราศจากสิ่งที่เรียกว่า "แก๊สเรือนกระจก" ซึ่งเป็นแก๊สที่ทำให้บรรยากาศโลกอบอุ่น ถ้าความร้อนบางส่วนที่สะท้อนจากผิวโลกไม่ถูกกักเก็บไว้โดยแก๊สเรือนกระจก โลกของเราจะมีอุณหภูมิลดลงมากกว่า 33 องศาเซลเซียส ปัญหาคือ ขณะนี้มนุษย์เป็นตัวการปล่อยแก๊สเรือนกระจกมากขึ้นเรื่อยๆ และเข้ารบกวนสมดุลธรรมชาติอันละเอียดอ่อน แก๊สเรือนกระจกเหล่านี้มาจากไหน...
น้ำมัน - เป็นแหล่งพลังงานหลักและแหล่งปล่อยก๊าสคาร์อนไดออกไซต์ที่สำคัญ โดยมีสัดส่วนการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ร้อยละ 40 ของการปล่อยจากเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมด ผลิตภัณฑ์น้ำมันเกือบทั้งหมดเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ในยานยนต์และเครื่องบิน และระบบทำความร้อน รวมถึงโรงไฟฟ้า
ถ่านหิน - เป็นตัวการใหญ่เช่นเดียวกับน้ำมัน และเมื่อเร็วๆ นี้ได้กลายเป็นตัวการโลกร้อนหมายเลขหนึ่ง การเผาไหม้ถ่านหินปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซต์จำนวนมหาศาล ลิกไนต์เป็นถ่านหินที่สกปรกมากที่สุด แม้จะคาดกันว่าแหล่งสำรองถ่านหินและลิกไนต์จะมีใช้ต่อไปอีกหลายร้อยปี แต่การใช้ถ่านหินมากขึ้นเป็นหายนะภัยอันใหญ่หลวงต่อสภาพภูมิอากาศของโลก
แก๊สธรรมชาติ - ถือได้ว่าเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่สกปรกน้อยที่สุด และอาจนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพในระบบการผลิตร่วมไฟฟ้า-ความร้อน แต่แก๊สธรรมชาติปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ออกมาครึ่งหนึ่งของลิกไนต์สำหรับพลังงานที่ผลิตได้ทุก 1 กิโลวัตต์ชั่วโมง
การทำลายป่าฝนเขตร้อน - มีส่วนในการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์โดยรวมประมาณ 1 ใน 5 การตัดไม้ออกจากป่าจนหมดเป็นอันตรายอย่างยิ่งเพราะจำนำไปสู่การล่มสลายของระบบภูมิอากาศทั้งหมดในพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ในลุ่มน้ำอะเมซอน เป็นต้น
มีเทน ไนตรัสออกไซต์ และ แก๊สอุตสาหกรรม - เป็นแก๊สเรือนกระจกที่สำคัญ แหล่งกำเนิดหลักของมีเทน คือ การปศุสัตว์ การเกษตรกรรม การทำลายป่าไม้ แต่การปล่อยแก๊สมีเทนออกมาในปริมาณมหาศาลยังมาจากการพังทลายของชั้นดินเยือกแข็ง (Permafrost) การทำเกษตรกรรมที่ใช้สารเคมียังเป็นแหล่งใหญ่ของแก๊สไนตรัสออกไซต์ แก๊สอุตสาหกรรมที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศและกระบวนการทางเคมีบางอย่างก็เป็นส่วนสำคัญของการทำลายสภาพภูมิอากาศ
วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น